วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

บัญชีรายรับ-รายจ่าย เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2553

1 พ.ย.53
   รับเงินมา  600 บาท
   ซื้อข้างเช้า กลางวัน เย็น  60 บาท
   ซื้อน้ำ  10 บาท
   เติมเงิน  22  บาท
   คงเหลือ  508 บาท
2 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า กลางวัน เย็น  60 บาท
   ซื้อน้ำแดง  12 บาท
   ซื้อน้ำ 1 แก้ว  5 บาท
   เติมเงิน  23 บาท
   ซื้อน้ำเขียว  12 บาท
   คงเหลือ  396 บาท
3 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า กลางวัน  40 บาท
   ซื้อน้ำ  5 บาท
   ซื้อขนมปัง  10 บาท
   เติมเงิน 23 บาท
   คงเหลือ  318 บาท
4 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   ซื้อน้ำ   5 บาท
   คงเหลือ  278 บาท
5 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า เย็น  40 บาท
   ซื้อก๋วยเตี๋ยว 15 บาท
   ซื้อน้ำบ็วย 10 บาท
   ขนมปัง  5 บาท
   คงเหลือ  208 บาท
6 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อมาม่าผัดขี้เมา  25 บาท
   เลย์ 1 ซอง  6 บาท
   เติมน้ำมันรถ  50 บาท
   คงเหลือ  107 บาท
7 พ.ย.53
   อาทิตย์นี้ได้เงินมา  600 บาท
   ซื้อผ้าอนามัยห่อใหญ่  55 บาท
   ซื้อขนม  10 บาท
   ซื้อยาสระผม  20 บาท
   คงเหลือ  515 บาท
8 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อน้ำ  5 บาท
   ซื้อราดหน้า  25 บาท
   เติมเงิน  20 บาท
   ซื้อน้ำแดง  12 บาท
   ซื้อก๋วยเตี๋ยว  20 บาท
   คงเหลือ  413 บาท
9 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   ซื้อน้ำ  5 บาท
   ซื้อขนมปัง  10 บาท
   คงเหลือ  363
10 พ.ย.53
   กินข้าวเช้า  20 บาท
   กินก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   ซื้อน้ำอัดลม  12 บาท
   คงเหลือ  316 บาท
11 พ.ย.53
   กินข้าวเช้า  20 บาท
   เติมเงิน  23 บาท
   ซื้อน้ำชานม 1 แก้ว  5 บาท
   กินก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   คงเหลือ  253 บาท
12 พ.ย.53
   กินข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   กินน้ำ 1 แก้ว  5 บาท
   เติมน้ำมันรถไป อบจ.  50 บาท
   คงเหลือ  163 บาท
14 พ.ย.53
   ใช้คอมฯหางานในเน็ต 2 ชม.  25 บาท
   ถ่ายเอกสาร  20 บาท
   ซื้อปกรายงาน  10 บาท
   คงเหลือ  108 บาท
15 พ.ย.53
   รับเงินมา  1000 บาท
   ซื้อเสื้อ 2 ตัว  140 บาท
   ซื้อข้าวเช้า เย็น  40บาท
   ซื้อขนม 1 ซอง  5 บาท
   คงเหลือ  815 บาท
16 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า กลางวัน เย็น  60 บาท
   กินน้ำลำใย  10 บาท
   ซื้อน้ำกินตอนเที่ยง  10 บาท
   ซื้อสันรายงาน  7 บาท
   ซื้อยาสีฟัน  10 บาท
   คงเหลือ  718 บาท
17 พ.ย.53
   กินข้าวเช้า กลางวัน  40 บาท
   กินน้ำแดง  12 บาท
   ซื้อผงซักฟอก 1ถุง  25 บาท
   คงเหลือ  641 บาท
18 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า  20 บาท
   ถ่ายเอกสาร  20 บาท
   ข้าวเที่ยง 15 บาท
   ซื้อน้ำ  5 บาท
   คงเหลือ  581 บาท
19 พ.ย.53
   กินข้าวเช้า กลางวัน   40 บาท
   น้ำแดงขวดเล็ก  5 บาท
   คงเหลือ  536 บาท
20 พ.ย.53
   ข้าวเช้า  20  บาท
   ก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   น้ำขาดเล็ก  5 บาท
   ซื้อสมุดเล่มเล็ก 1 เล่ม  5 บาท
   ซื้อปากกาน้ำเงิน  1 เล่ม  5 บาท
   คงเหลือ  486 บาท
21 พ.ย.53
   ข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อน้ำ  5 บาท
   ขนมปังให้ปลา  12 บาท
   คงเหลือ  449 บาท
22 พ.ย.53
   ข้าวเช้า  20 บาท
   ก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   กินน้ำ  5 บาท
   เติมเงิน  13 บาท
   คงเหลือ  396 บาท
23 พ.ย.53
   ข้าวเช้า  15 บาท
   ซื้อกระดาษA4  5 บาท
   กินข้าว  15 บาท
   น้ำแดง  5 บาท
   คงเหลือ  356 บาท
24 พ.ย.53
   ก๋วยเตี๋ยว 15 บาท
   กระดาษห่อของขวัญ  15 บาท
   ก๋วยเตี๋ยว  15 บาท
   น้ำแดง  5 บาท
   คงเหลือ  306 บาท
25 พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า  20 บาท
   ซื้อน้ำ  10 บาท
   ใช้คอมฯ  30 บาท
   ข้าวเที่ยง  15 บาท
   คงเหลือ  231 บาท
26 พ.ย.53
   ข้าวเช้า กลางวัน  35 บาท
   ปกรายงาน 2 แผ่น  10 บาท
   กินน้ำ  5 บาท
   เติมเงิน  13 บาท
   คงเหลือ  163 บาท
27พ.ย.53
   ถ่ายเอกสาร 5 ชุด  15 บาท
   ผลไม้  20 บาท
   น้ำแดง  10 บาท
   คงเหลือ  118 บาท
28พ.ย.53
   รับเงินมา  500 บาท
   ข้าวเย็นและน้ำแดง  25 บาท
   ขนมปังให้ปลา  12 บาท
   คงเหลือ  463 บาท
29พ.ย.53
   ข้าวเช้า เที่ยงและน้ำ  30 บาท
   ถ่ายเอกสารและใช้คอมฯ  40 บาท
   น้ำ แดง  5 บาท
   คงเหลือ  383 บาท
30พ.ย.53
   ซื้อข้าวเช้า เที่ยง เย็น  60 บาท
   ซื้อยาสีฟันและกระดาษA4  14 บาท
   น้ำแผ้อนามัย  17 บาท
   คงเหลือ  292 บาท
รวมเงินคงเหลือทั้งเดือนของเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2553
เป็นเงิน  625 บาท


  

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554



ถ้าคุณเคยสมัครอะไรของ google ไว้แล้ว เช่น เคยสมัครเมล์ gmail ก็สามารถใช้ รหัส gmail login ในช่อง ลงชื่อเข้าใช้งานได้เลย
...หรือถ้าไม่เคยสมัครอะไร หรืออยากจะสมัครใหม่ ก็ คลิกคลิกที่ลูกศรสีส้ม สร้างบล็อคของคุณทันที


..ที่อยู่อีเมล ใส่เมล์ของเรานะครับ เมล์อะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็น gmail ครับ ก็ประมาณว่า เมล์ที่เราใช้อยู่นั่นแหละครับ
..ใส่เมล์นั้นอีกครั้งครับ
..กำหนดรหัสผ่าน ตั้งขึ้นมาเลย ไม่ใช่รหัสเมล์นะครับ เป็นรหัสที่เราตั้งขึ้นเพื่อสมัคร blogger ครับ
..ชื่อที่แสดง ก็อย่างที่ในเว็บบอกครับ คือ คือนี่จะแสดงว่าเราเราโพสข้อความอะไรใน blog ของเรา หรือเขียนคอมเม้น แสดงความคิดเห็น blog ของคนอื่น
...รหัสยืนยัน ใส่รหัสสุ่มตามภาพที่ขึ้นมา
...ทำเครื่องหมายช่องสี่เหลี่ยม ยอมรับข้อตกลง ...จากนั้นคลิก ดำเนินการต่อ





ตั้งชื่อเว็บบล็อกเลยครับ ชื่อจะปรากฏที่บนสุดของ blog เช่น ดังภาพ


ที่อยู่บล็อก ก็คือ ชื่อที่อยู่ url ของ blog นั่นเองครับ ตัวอย่างชื่อ blog

สำหรับการ ตรวจสอบความพร้อมคือ ตรวจสอบว่าชื่อที่ตั้งอยู่ ซ้ำหรือมีใครใช้อยู่หรือยัง
ถ้าขึ้น ที่อยู่บล็อกนี้สามารถใช้ได้ ก็สามารถใช้ชื่อนี้ได้ครับ

*** ทั้งชื่อเว็บบล็อก และที่อยู่ บล็อก สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลังครับ
และ 1 user ที่ใช้ login blogger สามารถ สร้าง blog ได้ 100 blog ครับ
ถ้าอยากสร้างอีก ก็สมัคร account blogger ใหม่ เพิ่มอีกครับ ***

ขั้นตอนต่อไปก็จะมีให้เลือกรูปแบบของ blog
เลือกได้เลยครับ
ชอบแบบไหนก็เลือกไปก่อน สามารถ เปลี่ยนแปลงภายหลังได้


คลิก ดำเนินการต่อ ...

หลังจากนั้น จะมาถึงขั้นตอน เริ่มต้นการเขียนบล็อก เพื่อนำเสนอสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ

ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ blog ของ blogger ก่อนครับ
ก่อนเขียน blog เราต้องทำความเข้าใจและวางแผนก่อนครับ


.. blog เราสามารถ เขียนข้อความต่างๆ แทรกภาพ หรือนำเสนอต่างๆได้ ...
การเขียน blog ที่ blogger
- ข้อความล่าสุด จะอยู่ที่หน้า blog
- ข้อความต่างๆที่เขียนไป จะเป็นหัวข้อ รวมอยู่ในคลังบทความของบล็อก ซึ่งคำว่า "คลังบทความของบล็อก" ตัวอย่าง blog เที่ยววังน้ำเขียว
http://wang-namkeaw.blogspot.com ผมแก้คำว่า คลังบทความของบล็อก เป็น "รายละเอียด การท่องเที่ยว อ.วังน้ำเขียว" ซึ่งวิธีแก้เข้าที่หัวข้อ รูปแบบ...องค์ประกอบของหน้า


คลิกเข้าที่แก้ไข เพื่อเข้าไปแก้ไขคำว่า คลังบทความของบล็อก

สำหรับรูปแบบของ blog เที่ยววังน้ำเขียว ทำไมไม่มีใน แม่แบบ ของ blogger จะอธิบายอีกทีครับ ...เกี่ยวกับคลังของบทความ เราควรวางแผนแล้วว่า บทความหรือข้อความต่างๆที่เราจะเขียน blog จะเรียงลงมา เมื่อมีผู้เข้าเยี่ยมชม blog ของเรา ผู้เยี่ยมก็จะเห็นหัวข้อเหล่านั้น และเลือกที่จะคลิกอ่านได้ เป็นผลดีในการนำเสนอ
- สำหรับบทความต่างๆ หรือข้อความต่างๆที่เราจะนำเสนอใน blog ข้อความล่าสุดจะอยู่หน้าแรกครับ หน้าแรกของ blog ควรจะเป็นเหมือนหน้ารับแขก ซึ่งออกแบบ เพื่อดึงดูดให้ผู้เข้าเยี่ยมชมได้สนใจ และอ่าน blog ..แล้วจะทำงัยล่ะ ? เมื่อข้อความต่างๆที่เรา เขียนไป เป็นหัวข้อต่างๆ ข้อความล่าสุดจะอยู่หน้าแรก ถ้าเราออกแบบ หน้าที่ดึงดูดความสนใจ ไว้เป็นหน้าแรกแล้ว ถ้าเรามีข้อความมาเขียน หรือ นำเสนออีก จะทำงัย ให้หน้าที่เราออกแบบไว้ อยู่หน้าแรก
...วิธีการง่ายๆก็คือ แต่ละบทความที่เราเขียนไป สามารถแก้ไขได้ เราเข้าไปแก้ไขบทความนั้น แก้ไขตรงวันที่ หรือจะแก้ไขเวลาด้วยก็ได้ ให้เป็นวันที่ล่าสุด เพื่อให้บทความนั้นยังอยู่หน้าแรกนั่นเอง ...อยู่ล่างๆ นะครับ คลิกที่ตัวเลือกของบทความ แล้วจะมีให้แก้ไขได้

สำหรับ ป้ายกำกับสำหรับบทความนี้: ...หมายถืง คีย์เวิร์ด สำคัญ หรือน่าสนใจ ในบทความหรือข้อความนั้นๆนะครับ เวลาโพสหรือเขียนข้อความไปแล้ว จะขึ้นเป็นข้อความ ป้ายกำกับ อยู่ล่างสุดของบทความ
..ทำความเข้าใจ การโพส หรือการเขียนข้อความ
...เผยแพร่บทความ คือเขียนข้อความเสร็จแล้ว ต้องการโพสใน blog แล้ว
...สำหรับ บันทึกทันที หมายถึง เราเขียนแล้ว แต่ยังไม่อยากนำเสนอลงใน blog เราอาจยังเขียนไม่เสร็จ เราใช้ปุ่มบึนทึกทันที บันทึกไว้ก่อน ยังไม่แสดงใน blog เพื่อไว้จะมาแก้ไขเพิ่มเติมให้สมบูรณ์อีกทีในภายหลังครับ
...กลับมาเรื่องป้ายกำกับ เราสามารถแทรกไว้ใน blog เป็นเมนูได้ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชม ได้เลือกอ่านได้ ซึ่งใน blog เที่ยววังน้ำเขียว
http://wang-namkeaw.blogspot.com ป้ายกำกับ รวมอยู่ด้านขวานะครับ ที่เป็นหัวข้อ "คีย์เวิร์ด เด่นๆ ในการเที่ยว วังน้ำเขียว" ซึ่งแต่ก่อน จะเป็นหัวข้อว่า "ป้ายกำกับ" ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนแปลงชื่อหัวข้อได้ครับ
...สำหรับการเพิ่ม ส่วนของป้ายกำกับ ทำได้โดย มาที่องค์ประกอบของหน้า

มาที่เพิ่ม Gadget ตรงไหนก็ได้ครับ ปกติจะอยู่ทางด้านซ้าย และล่างสุด

เลือก ป้ายกำกับ แล้วคลิกเครื่องหมาย บวก + เพื่อเลือกรูปแบบ ป้ายกำกับ เข้ามาใน blog
...จะมีป้ายกำกับขึ้นมา เพื่อให้คลิก บันทึก เป็นการแทรกโดยสมบูรณ์ ...หรือจะแก้ไข คำว่า ป้ายกำกับ เลยก็ได้ หรือค่อยกลับมาแก้ไขภายหลังได้ครับ
เมื่อแทรกแล้ว ก็จะมีรูปแบบของป้ายกำกับเข้ามาใน blog



...สำหรับ หัวข้อส่วนต่างๆ สามารถเคลื่อนย้ายได้ เพื่อจัดรูปแบบต่างๆของ blog โดยเอาเม้าส์ คลิกค้าง แล้วลากไปตามส่วนต่างๆ ได้ตามต้องการ

...มาถึงที่ติดค้างไว้ คือรูปแบบของเว็บ เที่ยววังน้ำเขียว ทำไมไม่มีใน แม่แบบของ blogger
การใส่แม่แบบนอกเหนือจากแม่แบบที่มี ใน blogger ทำดังนี้
เข้าไปที่
http://btemplates.com/ จะมีรูปแบบต่างๆให้เลือก ดาวน์โหลด
ไฟล์ที่โหลดมา จะเป็นไฟล์ .zip ให้เรา แตกไฟล์ .zip ออกมา จะได้เป็นไฟล์ .xml
..เราจะเอาไฟล์ .xml เข้า blog ได้อย่างไร ?
,มาที่เมนู รูปแบบ หัวข้อ แก้ไข HTML จะมีให้ Browse เพื่อเลือกไฟล์ .xml ที่เรามีในเครื่อง (ที่เราไปโหลดมา)
แล้วคลิก อัปโหลด เพื่อ โหลดไฟล์ xml เข้าไปใน blog



จะมีบางรายการขึ้นมา ว่าส่วนไหนบ้างของแม่แบบเก่า จะหายไป ก็คลิกที่
ยืนยันและบันทึก เพื่อ เปลี่ยนแปลงให้ blog เรา เป็นแม่แบบใหม่ ที่ต้องการ
...สำหรับข้อความ บทความในการโพสต่างๆ ก็จะยังอยู่นะครับ จะไม่หายไปไหน เป็นการเปลี่ยนแม่แบบเฉยๆ
แต่ส่วนของการตกแต่ง หรือ Gadget ต่างๆที่เราเพิ่มเติมเสริมใน แม่แบบเก่า จะหายไป เราค่อยมาเลือก Gadget เพื่อตกแต่งใหม่ได้ครับ


...มาดูเมนูการตั้งค่า ซะหน่อย
บางคนสงสัยครับว่า blog ที่เขียน บทความต่างๆ ยาวลงมามาก ไม่รู้จะทำงัย มาที่ เมนูการตั้งค่า แล้วมาที่ การจัดรูปแบบ
สามารถเลือกได้ว่า จะแสดง หน้าละกี่บทความครับ
...ในเมนูนี้ ยังสามารถเปลี่ยน ภาษาได้ด้วย เป็นการเปลี่ยนภาษาของเมนูต่างๆ ใน blog ของเราครับ กรณี เราทำ blog ภาษาอังกฤษ แล้วอยากให้เมนูต่างๆเป็นภาษาอังกฤษ

...และอย่าลืม เข้ามาเปลี่ยน โซนเวลา ให้เป็น GMT +7 กรุงเทพด้วยนะครับ จะได้เช็คเวลาได้ กรณีมีใครมาเขียน แสดงความคิดเห็นใน blog เราครับ

ชื่อ blog สามารถ เปลี่ยนแปลงได้ด้วยนะครับ มาที่ เมนู การเผยแพร่ครับ ...มีประโยชน์กรณีที่เรา เขียนและตกแต่ง blog เยอะแล้ว แต่ไม่พอใจชื่อ blog ที่ใช้อยู่ ครับ เราก็สามารถแก้ไขได้ครับ

... 1 user สามารถเขียน blog ได้ 100 blog ...
เห็นหัวบนสุด ในระบบการเขียน blog มั้ยครับ คลิกที่แผงควบคุม จะมีรายการ blog ต่างๆที่เราทำไว้เรียงลงมาให้เห็น
..กรณีที่ยังไม่มี ก็จะมี blog ที่เราพึ่งทำนั่นแหละครับ 1 รายการ ถ้าเราจะทำ blog ใหม่เพิ่มอีก เรา ก็คลิกที่ สร้างบล็อกครับ ก็จะมีให้ตั้งชื่อ เพื่อสร้าง blog เพิ่มครับ ซึ่ง 1 user ของ blogger สามารถ สร้าง blog ได้ 100 blog ถ้าเราอยากสร้างมากกว่านั้น เราก็สมัคร blogger เพิ่มใหม่อีก User ครับ

... จบแล้วครับ ความรู้ในการเขียน blog และการวางแผนในการจัดรูปแบบ blog เพื่อความสวยงาม
...คัดลอกได้ครับ แต่ต้องอ้างอิงว่า เอาความรู้ มาจาก
http://www.makemoney-school.com ด้วยครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

แปลภาษา

produced more than twice as many solutions to the problems as compared to the animation-with-text group,yielding an effect size greater than l.The results are summarized in Figure 5.9. We refer to this finding as the modality effect-people learn more deeply from multimedia lessons when words explaining concur-rent graphics are pre4sented as speech rather than as on-screen text.
Figure 5.9. Better Learning When Visuals Are Explained with Audio Narration.
In a more interactive environment aimed at explaining how an electric motor works, students could click on various questions and for each see a short animated answer,along with narration or printed text deliveredby a charac-ter named Dr.Phyz (Mayer,Dow,&Mayer,2003).In the frame on the right side of the top screen in Figure 5.10,suppose the student clicks the question,"What happens when the motor is in the start position?"As a result, the students in the animation-with-text groupsee an animation along with on-screentext,as exemplified in the Response B frame on the bottom right side of Figure 5.10.In contrast,students in the animation-with-narration group see the same animation and hear the same words in spoken form as narration,as in the Response A frame on  the bottom left side of Figure 5.10.Students who received narration generated 29 percent more solutions on a subsequent problem-solving transfer test,yielding an effect size of.85.
   In a related study on the modality effect involving paper-based printed materials,Mousavi,Loe,and Sweller (1995)presented worked-out examples

ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าสองเท่าเพื่อแก้ปัญหาหลายปัญหาเมื่อเทียบกับภาพเคลื่อนไหวกับกลุ่มข้อความ,ผลผลิตขนาดอิทธิพลสูงกว่าลิตรผลสรุปในรูปที่ 5.9 เราดูที่การค้นหานี้เป้นคนที่มีผลต่อการเป็นกิริยาช่วยเรียนรู้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากบทเรียนมัลติมีเดียเมื่อคำอธิบายกราฟิกเช่าเห็นดีเห็นงามแสดงเป็นคำพูดมากกว่าที่จะเป็นบนหน้าจอข้อความนี้
   รูปที่ 5.9 ภาพการเรียนรู้ที่ดีขึ้นเมื่อมีการอธิบายด้วยเสียงคำบรรยาย
ในสภาพแวดล้อมการโต้ตอบมากยิ่งขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายวิธีการทำงานมอเตอร์ไฟฟ้านักเรียนสามารถคลิกที่คำถามต่างๆและสำหรับแต่ละพบคำตอบสั้น ภาพเคลื่อนไหวพร้อมกับคำบรรยายหรือข้อความที่พิมพ์ตัวอักษรชื่อที่จัดส่งโดย ดร.Phyz (เมเยอร์,ดวาและเมเยอร์,2003) ในกรอบด้านขวาของหน้าจอด้านบนในรูปที่ 5.10,สมมติว่านักเรียรนคลิกที่คำถามที่ว่า"เกิดอะไรขึ้นเมื่อมอเตอร์อยู่ในตำแหน่งเริ่มต้น?"เป็นผลให้นักเรียนในกลุ่มภาพเคลื่อนไหวพร้อมข้อความดูภาพเคลื่อนไหวพร้อมกับข้อความที่หน้าจอ,exemplified ในกรอบการตอบสนอง B ด้านขวา ล่างของรูปที่คมชัด 5.10 ในทางตรงกันข้ามผู้เรียนในกลุ่มภาพเคลื่อนไหวพร้อมคำบรรยายแบบเห็นภาพเคลื่อนไหวและได้ยินคำพูดเดียวเดียวกันในรูปแบบพูดเป็นคำบรรยายเช่นในการตอบสนอง A ในกรอบด้านล่างด้านซ้ายของรูปที่ 5.10 นักเรียนที่ได้รับการบรรยายสร้างโซลูชั่นร้อยละ29 เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบการถ่ายโอนตามมาแก้ปัญหาการให้ผลผลิตขนาดผลกระทบของ 85
   ในการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับผลต่อการเป็นกิริยาที่เกี่ยวข้องกับสื่อสิ่งพิมิ์ paper-based,Mousavi,ต่ำและSweller (1995) ได้นำเสนอตัวอย่างออกทำงาน

วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิธีการสมัครGmail

การสมัครGmail

วิธีการสมัคร Gmail


  1. เข้า เว็บไซท์ www.gmail.com
  2. คลิก ปุ่ม “สร้างบัญชี”
Image
จะปรากฏหน้าต่างสร้าง บัญชี ตามรูปที่ 2 และ 3
Image
รูปที่ 2
3.      กรอกรายละเอียดตามรูป 3 – 6
Image
รูปที่ 3
Image
รูปที่ 4
Image
รูปที่ 5
Image
รูปที่ 6

ใส่ความเห็น

Your email address will not be published.
You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <pre> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <strike> <strong>

ปรัชญาแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง




การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง  คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลาง  และความไม่ประมาท  โดยคำนึงถึงความพอประมาณ  ความมีเหตุผล  การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบ  และคุณธรรม  ประกอบการวางแผน  การตัดสินใจและการกระทำ  เพื่อที่จะไม่มีข้อผิดพลาดในภายหลัง  จึงควรยึดตามแนวหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง